แบบทดสอบ Digital Marketing Associate ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล

แบบทดสอบ Digital Marketing Associate ประเมินความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล
❓ คำถาม:
What is a benefit of using Ads Manager to create ads, rather than boosting a post directly from a business Page?
(ข้อดีของการใช้ Ads Manager เพื่อสร้างโฆษณา แทนการกด Boost Post จากหน้าเพจธุรกิจคืออะไร?)
✅ คำตอบ:
C. Create campaigns with multiple ads
(คุณสามารถสร้างแคมเปญที่มีโฆษณาหลายตัวได้)
.
ทำไมตัวเลือกอื่นถึงไม่ถูกต้อง?
❌ A. Preview the ad during ad creation
(ดูตัวอย่างโฆษณาระหว่างการสร้าง)
แม้ว่า Ads Manager จะสามารถแสดงตัวอย่างโฆษณาได้ แต่ฟีเจอร์นี้ไม่ได้เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากการบูสต์โพสต์ เนื่องจากการบูสต์โพสต์ก็มีตัวอย่างโฆษณาให้ดูเช่นกัน
❌ B. Create an ad from an existing post
(สร้างโฆษณาจากโพสต์ที่มีอยู่แล้ว)
การบูสต์โพสต์โดยตรงก็สามารถใช้โพสต์เดิมมาสร้างโฆษณาได้เหมือนกัน
❌ D. Set a specific time for an ad to run
(กำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการแสดงโฆษณา)
ฟีเจอร์นี้สามารถทำได้ทั้งใน Ads Manager และบางกรณีของการบูสต์โพสต์ ซึ่ง Ads Manager มีความยืดหยุ่นและรายละเอียดที่มากกว่า เช่น การตั้งเวลาเฉพาะเจาะจงหรือการกำหนดช่วงเวลาต่างกันในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
ดังนั้น Ads Manager จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับการจัดการโฆษณาที่มีความซับซ้อนหรือการสร้างแคมเปญที่มีหลายโฆษณาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
อธิบายเพิ่มเติม
1. Ads Manager คืออะไร?
Ads Manager เป็นเครื่องมือของ Meta (Facebook) ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและจัดการโฆษณาได้อย่างละเอียด ตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย (Objective) การเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience) การตั้งงบประมาณ (Budget) ไปจนถึงการวิเคราะห์ผลลัพธ์ (Performance Analysis)
2. Boost Post คืออะไร?
Boost Post เป็นฟีเจอร์ที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ใช้เพื่อโปรโมตโพสต์จากหน้าเพจโดยตรง เหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างการมองเห็น (Reach) หรือการมีส่วนร่วม (Engagement) อย่างรวดเร็ว แต่มีตัวเลือกในการปรับแต่งน้อยกว่า Ads Manager
การใช้ Ads Manager มีข้อได้เปรียบหลายอย่างเมื่อเทียบกับการบูสต์โพสต์จากหน้าเพจโดยตรง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ความสามารถในการสร้างแคมเปญที่มีหลายโฆษณา ภายในหนึ่งแคมเปญเดียวกัน คุณสามารถกำหนดโครงสร้างการโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจัดการกับกลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ และรูปแบบโฆษณาได้อย่างละเอียด เช่น
1. การจัดการโครงสร้างแบบแคมเปญ (Campaign Structure):
Ads Manager ช่วยให้คุณสร้างโฆษณาหลายรายการในแคมเปญเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบ A/B Testing หรือการกำหนดโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
2. การปรับแต่งกลยุทธ์โฆษณา:
คุณสามารถกำหนดเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายย่อย (Ad Sets) และปรับแต่งข้อความหรือสื่อโฆษณาในแต่ละ Ad ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
3. การวิเคราะห์และรายงานผลลัพธ์:
Ads Manager ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดกว่า เช่น การติดตาม Conversion, การวัดผล ROI หรือการดูพฤติกรรมของผู้ชมโฆษณา
✨ข้อดีของการใช้ Ads Manager เพื่อสร้างโฆษณาแทนการกด Boost Post จากหน้าเพจ
1. Ads Manager ช่วยให้คุณสร้างโฆษณาหลายตัวในแคมเปญเดียวกัน มีความสามารถในการสร้างโครงสร้างโฆษณาที่ซับซ้อนกว่า
• สร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างในแคมเปญเดียว
• สร้างโฆษณาในหลายรูปแบบสำหรับแต่ละเป้าหมาย เช่น คุณสามารถทดลองข้อความ (Copy), ภาพ หรือวิดีโอที่แตกต่างกัน เพื่อดูว่าแบบไหนที่ลูกค้าชอบที่สุด หรือได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
2. เข้าถึงเป้าหมายได้ตรงจุด
Ads Manager ให้คุณเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดกว่า เช่น
• คนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณ
• คนที่เคยดูวิดีโอบนเพจ
หรือแม้แต่คนที่เคยใส่สินค้าในตะกร้าแต่ยังไม่ได้ชำระเงิน
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับการตั้งค่า Custom Audience และ Lookalike Audience เพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่มีโอกาสสนใจสูงที่สุดได้
3. ตั้งเป้าหมายที่หลากหลายกว่า
Boost Post เหมาะสำหรับการเพิ่มการมองเห็น (Reach) หรือการมีส่วนร่วม (Engagement) เท่านั้น แต่ Ads Manager ช่วยให้คุณเลือกเป้าหมายที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากกว่า เช่น:
• เพิ่มยอดขาย (Conversion)
• เพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ (Traffic)
• เก็บข้อมูลลูกค้าที่สนใจ (Lead Generation)
4. ควบคุมงบประมาณและเวลาได้ละเอียดกว่า
ใน Ads Manager คุณสามารถตั้งงบประมาณแยกต่อโฆษณา หรือกระจายงบให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพของโฆษณาแต่ละตัว
ระบุช่วงเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ชัดเจน เช่น โฆษณาแสดงเฉพาะช่วงเวลา 20.00 – 22.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่กลุ่มเป้าหมายของคุณออนไลน์
5. วิเคราะห์และปรับปรุงผลลัพธ์ได้อย่างมืออาชีพ
Ads Manager มี รายงานเชิงลึก (Insights) เช่น
• ค่า CTR (Click-Through Rate)
• CPM (Cost per 1,000 Impressions)
• ROI (Return on Investment)
คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงโฆษณาในอนาคตได้
สรุป
การใช้ Ads Manager มีความเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการวางแผนและปรับแต่งแคมเปญโฆษณาในเชิงลึก ในขณะที่ Boost Post เหมาะกับการโปรโมตแบบง่ายและรวดเร็ว หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างแคมเปญที่ซับซ้อนและสามารถจัดการโฆษณาหลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน Ads Manager คือคำตอบที่ดีที่สุด!
ติดตามความรู้และเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัล
พร้อมติดต่อ อาจารย์หลิง วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Marketing ได้ที่ Line ID : @indigital
อัปเดตเทรนด์การตลาดออนไลน์
พร้อมรับความรู้แบบเข้าใจง่าย แถมนำไปใช้ได้จริง
กดติดตาม “InDigital” เลย!
บริการ Content Marketing รับทําคอนเทนต์สร้างยอดขาย
ติดต่อได้ที่ ไลน์ @inDigital
.
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @inDigital ที่นี่