fbpx

Bill Gates ผู้ก่อตั้งธุรกิจซอฟต์แวร์ Microsoft หนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลก

Bill Gates ผู้ก่อตั้งธุรกิจซอฟต์แวร์ Microsoft หนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลก

แชร์บทความน่าสนใจได้ที่นี่

Bill Gates เป็นผู้ประกอบการ และนักธุรกิจ หุ้นส่วนธุรกิจของเขา Paul Allen ได้ก่อตั้งและสร้างธุรกิจซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก Microsoft ผ่านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่กระตือรือร้นและกลยุทธ์ทางธุรกิจเชิงรุก ในกระบวนการนี้ Bill Gates ก็กลายเป็นผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของโลก ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 Bill Gates ประกาศว่าเขาจะก้าวลงไปในฐานะประธานไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับงานการกุศลที่มูลนิธิ the Bill and Melinda Gates Foundation.

William Henry Gates III หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Bill Gates เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2498 ใน Seattle Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบุตรของ William Henry Gates Sr. และ Mary Maxwell Gates โดยพ่อของเขานั้นทำอาชีพเป็นทนายความ ส่วนแม่ของเขานั้นเคยเป็นครูและต่อมาได้กลายเป็นผู้บริหารในบริษัท First Interstate BancSystem, Inc. ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และองค์กรการกุศลอย่าง United Way

Bill Gates ในวัย 13 ขวบ เขาได้ลงเรียนที่ Lakeside School ซึ่งในขณะที่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทางโรงเรียนก็ได้มีการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการสอน ซึ่ง Bill Gates ให้ความสนใจกับเครื่องคอมพิวเตอร์มาก ถึงขนาดที่ยอมโดดเรียนแล้วแอบไปเล่นคอมพิวเตอร์กับเพื่อนซี้ของเขาอย่าง Paul Allen (ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft) ซึ่งปกติทางโรงเรียนจะกำหนดให้เล่นเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่พวกเขาก็แอบแฮกเข้าไปเปลี่ยนระบบเวลาให้เล่นได้ไม่จำนวนจำกัด จนกระทั่งพวกเขาโดนสั่งห้ามให้เล่นคอมพิวเตอร์อีกเป็นอันขาด แต่ด้วยความที่เขาชอบเล่นคอมพิวเตอร์ Bill Gates และ Paul Allen จึงได้แอบเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และติดต่อไปยังเจ้าของบริษัทที่ให้โรงเรียนเช่าคอมพิวเตอร์เพื่อเสนอตัวแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ของโปรแกรม เพื่อแลกกับการที่พวกเขาสามารถกลับเข้ามาใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ไม่จำนวนจำกัดเวลา ช่วงอายุ 17 ปี ก่อนที่เขาจะจบการศึกษาจาก Lakeside เขายังได้เขียนโปรแกรมขายให้กับโรงเรียนของเขา ซึ่งถือได้ว่าเป็น Software ชิ้นแรกที่เขาสามารถทำเงินได้

ในปี 1973 เมื่อ Bill Gates จบการศึกษาจาก Lakeside School และสอบ SAT โดยได้คะแนน 1590 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1600 ทำให้เขาสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย Harvard ได้ เขาเลือกที่จะลงเรียนในสาขาทนายความตามพ่อ แต่เขาใช้เวลาอยู่กับคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งในปี 1975 เดือนมกราคม Bill Gates ได้อ่านบทความบทหนึ่งในนิตยสาร Popular  Electronics ซึ่งพูดถึงเกี่ยวกับการออกไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Altair 8800 ที่ผลิตโดย Micro Instrumentation and Telemetry Systems หรือ MITS Bill Gates จึงเห็นโอกาสทางธุรกิจว่าคอมพิวเตอร์กำลังจะเข้าถึงผู้คนที่มีสามารถใช้งานแข่งขันกับคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ได้ และไมโครคอมพิวเตอร์ถูกผลิตออกมาจำนวนมากเพื่อให้เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก และสิ่งที่คอมพิวเตอร์ขาดไม่ได้ คือ ระบบปฏิบัติการที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานตามคำสั่งของผู้ใช้ได้ เขาจึงติดต่อ MITS ว่าเขามีโปรแกรม BASIC ที่สามารถใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาได้ ทั้งที่จริง Bill Gates ยังไม่ได้เขียนโปรแกรมอะไรขึ้นมาเลย แต่นั่นก็ทำให้ MITS เรียกตัวเข้าไปคุย ซึ่ง Bill Gates ก็ไปกับ Paul Allen และช่วยกันเขียนโปรแกรมแบบจำลองขึ้นมา โปรแกรม BASIC ที่พวกเขาเขียนขึ้นมาสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ทั้งสองคนจึงได้ไปทำงานกับ MITS ต่อมา Bill Gates ก็ได้ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย Harvard ซึ่งเขามีอายุได้เพียง 21 ปีเท่านั้น และร่วมกันก่อตั้งบริษัทกับ Paul Allen ที่ชื่อว่า Microsoft Corporation เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 1976 โดยออฟฟิศแรกอยู่ที่เมือง Albuquerque รัฐ New Maxico Microsoft’s Altair BASIC ได้รับความนิยมจากนักเล่นคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก แต่ Bill Gates ก็พบว่า ส่วนใหญ่ของคนที่ใช้โปรแกรม BASIC ของพวกเขานั้นถูกคัดลอก และแจกจ่ายให้ใช้งานฟรี โดยไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าซอร์ฟแวร์แต่อย่างใดถึง 90 % ของผู้ใช้งานทั้งหมด จึงเรียกขอเรียกร้องจากทาง MITS ว่าพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ของ MITS จึงทำให้ Microsoft ไม่ตกอยู่ภายใต้สัญญาของ MITS ต่อมาพวกเขาก็ได้ย้ายออฟฟิศโดยไปตั้งรกรากใหม่ที่ Bellevue รัฐ Washington ในวันที่ 1 มกราคม ปี 1979

ในปี 1980 บริษัท IBM ได้เบนเข็มที่จะบุกตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลได้ติดต่อมาที่ Microsoft เพื่อให้เขียนระบบปฏิบัติการให้ โดย Bill Gates และ Paul Allen ได้เขียนระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า MS-DOS โดย IBM เสนอเงินให้เป็นจำนวน 50,000 เหรียญ หรือประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ในการซื้อขายขาดแบบครั้งเดียว Bill Gates คิดว่าเขาไม่ควรขายขาด แต่เปลี่ยนการดีลเป็นการขายลิขสิทธิ์ในตัวระบบปฏิบัติการแทน โดยทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์ของ IBM จำหน่ายไปพร้อมกับระบบปฏิบัติการของ Microsoft ทาง Bill Gates ก็จะได้ส่วนแบ่งทุกเครื่องจาก IBM และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของ IBM ก็ขายได้เป็นจำนวนมาก แม้ว่า Microsoft จะเจอปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์สำหรับคนทั่วไป แต่บริษัทที่อยู่ในรูปขององค์กรทั้งหมดเลือกใช้ลิขสิทธิ์ของแท้เพราะไม่อยากมีปัญหาลิขสิทธิ์ในภายหลัง

  • ผู้ใจบุญมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และประสบความสำเร็จ จะทำให้โลกเป็นสถานที่ที่ดีกว่าสำหรับคนยากจน Bill Gates ช่วยชีวิตคนได้มากกว่า 5 ล้านคน ด้วยการนำวัคซีน และพัฒนาการดูแลสุขภาพของเด็กๆ ตลอดชีวิตของเขา เขาบริจาคทรัพย์สินครึ่งหนึ่งลงทุนในมูลนิธิที่สนับสนุนการพัฒนาด้านสุขภาพสังคมและการศึกษา
  • แม้ว่าพื้นฐานของคนเราจะคิดว่าเงินจำนวนมากจะช่วยปรับปรุงโลกเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคนที่ทำงานอย่างหนักที่ทำให้ก้าวหน้าไปได้ Bill Gates อธิบายว่า “คนเหล่านี้ และอีกหลายล้านคนกำลังสร้างความแตกต่างในโลกของเรา และในขณะที่พวกเขาอาจเรียกตัวเองว่าเป็นวีรบุรุษ แต่ฉันคิดว่าไม่มีคำใดจะอธิบายถึงพวกเขาได้”

คำพูดของ Bill Gates ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จและไม่ลืมที่จะแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น

  1. อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับใครในโลกนี้ ถ้าคุณทำเช่นนั้นถือว่าคุณดูถูกตัวเอง
  2. ฉันเลือกคนขี้เกียจที่จะทำงานหนัก เพราะคนขี้เกียจจะหาวิธีง่ายๆในการทำ
  3. เป็นคนดีหรือคนโง่ จะจบลงด้วยการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง
  4. เมื่อประเทศหนึ่งมีทักษะ และความมั่นใจในตนเองที่จะดำเนินการกับปัญหาที่ใหญ่ที่สุดมันทำให้คนนอกอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน
  5. ความเชื่อที่ว่าโลกกำลังแย่ลงเราไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจน และโรคภัยไข้เจ็บได้ไม่เพียงแค่เข้าใจผิด มันเป็นอันตราย
  6. เราต้องหาวิธีที่จะทำให้แง่มุมของลัทธิทุนนิยมที่รับใช้คนที่มีฐานะร่ำรวยรับใช้คนยากจนเช่นกัน
  7. โดยส่วนตัวฉันต้องการเห็นผู้นำของเรามากขึ้นใช้วิธีการทางเทคโนโลยี เพื่อแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเรา
  8. การบรรยายควรเริ่มจากการเป็นเหมือนครอบครัวที่ร้องเพลงรอบเปียโนไปจนถึงคอนเสิร์ตคุณภาพสูง
  9. ฉันเชื่อว่าถ้าคุณแสดงให้คนอื่นเห็นปัญหา และคุณแสดงให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาจะได้รับการแก้ไข
  10. ฉันคิดว่าความคิดทั่วไปเกี่ยวกับคนรวยช่วยคนจนมีความสำคัญ
  11. ผู้ใจบุญที่น่าทึ่งที่สุดคือคนที่เสียสละอย่างมาก
  12. การรักษาโดยไม่มีการป้องกันนั้นไม่ยั่งยืน
  13. เราทุกคนต้องการคนที่จะให้ข้อเสนอแนะกับเรา นั่นคือวิธีที่เราปรับปรุง
  14. เราสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเมื่อเราลงทุนในคนจนไม่ใช่เมื่อเรายืนยันความทุกข์ของพวกเขา

 

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@inDigital ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

 

 

Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th

ที่มา : biography, blog.adioma, goalcast, entrepreneur

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *