เทคนิค! การลงโฆษณาแบบ วีดีโอ บน Facebook ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน

ปัจจุบันการลงโฆษณาแบบวีดีโอกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นการนำเสนอผ่านภาพและเสียงทำให้ลูกค้าสนใจ และเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งการลงโฆษณาแบบนี้ยังสามารถดึงดูดความสนใจได้ดีกว่ารูปภาพนิ่งๆ ที่มีแต่คำบรรยายเต็มไปหมดอย่างแน่นอน แต่จากการสังเกตนั้น พบว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังลงโฆษณาวีดีโอแบบผิดๆ ส่งผลให้ค่าโฆษณาแพง การตอบรับน้อย หรือขายสินค้าไม่ได้ วันนี้เราจึงมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการลงโฆษณาแบบวีดีโอมาฝากกันค่ะ

1. ไม่ควรนำวีดีโอจาก Youtube มาลงโฆษณา

สำหรับการลงโฆษณาโดยการแชร์วีดีโอมาจาก Youtube นั้น ถือเป็นข้อต้องห้ามก็ว่าได้! เนื่องจากเป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า Facebook กับ Youtube ค่อนข้างแข่งขันกันทางด้านการตลาด ซึ่งการแชร์วีดีโอจาก Youtube มาลงโฆษณานั้น Facebook จะแสดงผลโฆษณาของเราน้อย รูปภาพในวีดีโอจะค่อนข้างเล็ก ไม่น่าสนใจ ส่งผลให้การเข้าถึงโฆษณาน้อย การตอบรับน้อย และค่าโฆษณาของเราแพงอีกด้วย

2. ไม่ควรนำรูปภาพมาทำเป็นวีดีโอ

หลายคนอยากลงโฆษณาแบบวีดีโอ แต่ไม่อยากอัดวีดีโอเอง จึงนำรูปภาพรีวิว หรือรูปภาพสินค้ามาทำเป็นวีดีโอแทน ไม่เอานะคะ!วีดีโอแบบนี้นอกจากลูกค้าจะไม่สนใจแล้ว ยังน่าเบื่ออีกด้วย และที่สำคัญ Facebook ตรวจเข้มทุกรูปที่เอามาทำวิดีโอ ถ้ามีรูปที่ข้อความเยอะจะลดการเข้าถึงทันที

3. เนื้อหาในวีดีโอต้องน่าสนใจ

การนำเสนอสินค้าหรือข้อมูลผ่านวีดีโอนั้นต้องทำให้น่าสนใจ น่าติดตาม แปลกใหม่ และสร้างสรรค์ ไม่ใช่วีดีโอที่เอาคนมานั่งถามตอบกันเฉยๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ เพราะคนส่วนมากใช้เวลาในการเลื่อนดูวีดีโอแทบไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ หากโฆษณาไม่น่าสนใจลูกค้าก็จะเลื่อนผ่านหรือกดปิดไปเลย ทำให้เราเสียค่าลงโฆษณาไปอย่างเปล่าประโยชน์

4. รูปภาพหน้าปกวีดีโอต้องเด็ด!

ส่วนนี้สำคัญมาก! เคยได้ยินคำว่า “รูปภาพเรียกแขกไหม” นั่นแหละค่ะ ถ้าเรา
สามารถเลือกรูปหน้าปกวีดีโอของเราให้น่าสนใจ เห็นแล้วสะดุดตา หรือชวนให้คนเข้ามาดูได้ดีเท่าไหร่ ก็จะกระตุ้นให้คนสนใจเข้ามาดูวิดีโอของเราได้มากขึ้นเท่านั้น

5. คำบรรยายต้องเกี่ยวข้องกับวีดีโอ

คำบรรยายนั้นก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน ต้องมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวีดีโอ ไม่ยืดเยื้อ
หรือยาวเกินไป ไม่ใช้คำศัพท์ที่เข้าใจยากหรือศัพท์เฉพาะ ให้ใช้คำที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย อ่านแล้วโดนใจ ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกอยากซื้อ อยากลองใช้สินค้าของเรา

6. ช่องทางการสั่งซื้อต้องชัดเจน

สำคัญนะข้อนี้ ! ควรมีการบอกถึงช่องทางการติดต่อ การสั่งซื้อสินค้าไว้อย่าง
ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น Line@ E-mail หรือเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกช่องทางในการติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ติดต่อได้ที่ :

โทร 095-940-2345
ติดต่อ Line ID : @indigital (มี@ นะคะ)
คลิกเพื่อ ADD Line : https://line.me/R/ti/p/%40indigital
Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
คลิก https://www.facebook.com/indigital.co.th/
เว็บไซต์ : www.indigital.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่อง buddybuy